วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2551

30 วิธี ช่วยตัวเองให้มีความสุข^^

บางครั้ง ความสุขก็ไม่จำเป็นต้องไขว่คว้ามา ...บางครั้ง มันอาจจะจะ
อยู่ใกล้ๆตัวคุณก็ได้
1. นึกไว้เสมอว่า การโกรธ 1 นาที จะทำให้ความทุกข์อยู่กับคุณ 3 ชั่วโมง
2. ถ้ายิ้มให้กับคนที่อยู่ในกระจกรับรองว่าเขาต้องยิ้มตอบกลับมาทุกครั้ง
3. ลองปลูกต้นไม้เองซักต้นการเติบโตของมันจะบ่งบอกตัวตนของคุณได้
4. หลับตานิ่งๆสัก 3 นาที เมื่อรู้สึกว่าอะไรที่อยู่ตรงหน้ามันช่างยากเย็นเหลือเกิน
5. ระหว่างแปรงฟันฮัมเพลงไปด้วยจนจบ จะทำให้ฟันสะอาดขึ้นเป็น 2 เท่า
6. เคี้ยวข้าวแต่ละคำให้ช้าลงจากรสชาติที่ธรรมดา ก็จะอร่อยขึ้นเยอะเลย
7. ไม่ว่าผมจะสั้นหรือยาวแค่ไหนก็ต้องการให้หวีอย่างทะนุถนอมเหมือนกันหมด
8. การขึ้น-ลงบันไดสูงๆแบบไม่ให้เมื่อย คือ การไม่นับว่ากำลังยืนอยู่บันไดขั้นที่เท่าไร
9. คนตาบอดจะเห็นว่าคุณสวยมากๆทันทีที่คุณถามเขาว่า ช่วยพาข้ามถนนไหม
10. เมื่อจะหยิบเศษเงินให้ขอทานไม่จำเป็นต้องนับก่อนที่จะหย่อนลงกระป๋องหรอก
11. ควรหัดพูดคำว่า ไม่เป็นไร ให้เคยปากมากกว่าจะพูดคำว่า จะเอายังไง
12. ลองตั้งนาฬิกาให้เร็วขึ้น 15 นาที รับรองว่าจะไม่ไปสายเหมือนเมื่อก่อน
13. สัตว์เลี้ยงที่บ้านเก็บความลับเก่ง ดังนั้น เรื่องที่ไม่อยากให้ใครรู้ จึงเล่าให้มันฟังได้
14. อาหารที่จะไม่ชอบกินตอนเด็กลองตักเข้าปากอีกสักที เผื่อจะกลายเป็นอาหารจานโปรด
15. เขียนชื่อคนที่คุณเกลียดใส่กระดาษ แล้วฉีกทิ้ง (หรือแปะไว้ใต้รองเท้าแล้วใส่รองเท้านั้นไปเดินเล่นสักพัก)ความเกลียดจะเบาบางลงเรื่อยๆ
16. ปล่อยน้ำตาให้ไหลโดยไม่ต้องเช็ด เมื่อน้ำตาแห้ง จะดูแทบไม่ออกเลยว่าเพิ่งร้องไห้
17. ตุ๊กตาและของเล่นเก่าๆจะทำให้เรายิ้มออกเสมอเมื่อได้เห็นมันอีกครั้ง
18. ก่อนซื้ออะไรก็ตาม ต้องคิดหาประโยชน์ของมัน ทำให้ได้ 3 ข้อก่อน
19. ถึงเสื้อและกางเกงในตู้จะมีอยู่น้อย แต่ถ้าใสสลับกันไปเรื่อยๆก็จะดูเหมือนมีเยอะขึ้น
20. ซาลาเปา 1 ลูก กินได้ 2 คน ลูกชิ้นปิ้ง 1 ไม้ กินได้ 4 คน ถ้าคุณคิดจะแบ่งเท่านั้นเอง
21. เลือกให้ของขวัญคนที่ไม่เคยได้ ดีกว่าให้คนที่ได้เยอะ จนจำชื่อคนให้ได้ไม่หมด
22. ในวันที่รู้สึกเศร้าหรือเหงาๆเดินไปซื้อดอกไม้ให้ตัวเองซักดอกก็จะดีขึ้น
23. แอบรักใครสักคน...ยังไงก็ยังดีกว่าไม่เคยรู้ว่าความรู้สึกรักมันเป็นอย่างไร
24. ถึงจะไม่ได้ออกไปไหน แต่ก็ไม่ได้หมายความจะแต่งตัว สวยๆ หล่อๆ ไม่ได้นี่
25. ฝึกโรแมนติกง่ายๆคนเดียวบ้าง ด้วยการนั่งนับดาวให้ครบ 100 ดวงก่อนนอน
26. ถ้าคุณเช็ดกระจกที่ขุ่นมัวที่สุดจนสดใสได้ ทำไมถึงจะเรียนดีกว่านี้ไม่ได้
27. พยายามอ่านหนังสือทุกชนิดในมือให้จบ มันอาจจะไม่สนุก แต่ก็มีประโยชน์แฝงอยู่
28. วันที่ตื่นเช้าให้บิดขี้เกียจให้นานที่สุด เท่าที่จะนานได้ ถ้าขี้เกียจออกกำลังกาย
29. แค่เอาข้าวที่กินไม่หมดไปให้หมาที่เดินผ่าน ก็เป็นการทำบุญที่ไม่ต้องลงทุนแล้ว
30. ปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็นในบ้าน แม่จะได้มีค่าขนมให้คุณเพิ่มขึ้นอีกหลายบาท
v
v
v
๕๕๕+ มีความสุขมั๊ยล่ะ???

วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ทำไมเวลาฝนตก...คนจึงเหงา??


"ทำไมเวลาฝนตก....เรามักคิดถึงใครบางคน หรือบางทีเราก็รู้สึกเหงา....... ทำไมเวลาที่ฝนตก เรามักจะคิดถึงคนที่เรารัก เราผูกพัน และบางครั้งก็รู้สึกเหงาด้วย ...." เมื่อก่อนนี้ ท้องฟ้า แผ่นดิน และผืนน้ำ เป็นเพื่อนรักกัน ทั้งสามอยู่ใกล้ชิดติดกัน จนกระทั่งโลกได้กำเนิดพืช และสัตว์ขึ้น แผ่นดิน และผืนน้ำก็มัวแต่ดูแลเอาใจใส่พืช และสัตว์ จนละเลยและไม่สนใจท้องฟ้า ท้องฟ้าก็เริ่มรู้สึกน้อยใจ และถอยตัวห่างออกไป ห่างออกไปทุกที ทุกที จนถึงวันที่มีนกตัวแรกออกโบยบิน แผ่นดิน และผืนน้ำจึงได้รู้ว่าท้องฟ้าได้จากไปไกลแสนไกล แผ่นดิน และผืนน้ำพยายามส่งเสียงเรียกท้องฟ้า แต่ท้องฟ้าอยู่ไกลมาก เลยไม่ได้ยิน นกตัวนั้นจึงอาสาที่จะไปบอกกับท้องฟ้า นกก็บินขึ้นสูง สูงขึ้น สูงขึ้น และส่งเสียงเรียก แต่เสียงนกนั้นเบาเกินไป ไปไม่ถึงท้องฟ้า แต่นกก็สัญญาว่า ต่อไปนี้นกทุกตัวจะบินขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อนำข่าวจากแผ่นดิน และผืนน้ำไปบอก ผืนน้ำ และแผ่นดินรู้สึกเศร้าใจที่เพื่อนได้ห่างออกไปไกล และคิดถึงเพื่อนเหลือเกิน ผืนน้ำพยายามที่จะม้วนตัวเป็นเกลียวคลื่นครั้งแล้วครั้งเล่า แผ่นดินพยายามยกตัวสูงจนตั้งตระหง่าน แต่นั่นก็ยังสูงไม่พอ ยังไม่ใกล้ท้องฟ้า พระอาทิตย์ซึ่งเฝ้ามองดูเหตุการณ์มาโดยตลอด ก็บอกกับทั้งสองว่า "เราอาจจะช่วยพวกเจ้าได้" พระอาทิตย์จึงอาสาช่วย โดยการส่องแสงลงมายังผืนน้ำ และแผ่นดิน ทำให้ระเหยกลายเป็นไอ ลอยไปรวมตัวกันเป็นก้อนเมฆ ลอยขึ้นไปบอกข่าวแก่ท้องฟ้า เล่าเรื่องราวต่างๆ เป็นรูปตามที่แผ่นดินและผืนน้ำได้พบเจอมา และบอกว่าแผ่นดิน และผืนน้ำคิดถึงมาก อยากให้ท้องฟ้าลงมาสนิทแนบชิดเหมือนเมื่อก่อน ท้องฟ้าได้รับรู้เรื่องราว ก็รู้สึกเสียใจ แต่ก็กลับลงไปไม่ได้ "ฉันกลับลงไปไม่ได้หรอก เพราะฉันเติบโตขึ้น และอยู่สูงเกินไป ลงไปไม่ได้แล้ว ฉันได้แผ่ขยายตัวเองจนกว้างขวาง ที่ฉันทำได้ก็เพียงแต่เฝ้ามองดูอยู่ไกล ๆ และโอบกอดแผ่นดินและผืนน้ำไว้อย่างอ่อนโยนเท่านั้น และถึงแม้จะมีนกบินมาส่งข่าว แต่ฉันก็ยังคิดถึงแผ่นดินและผืนน้ำ และอยากจะบอกกับทั้งสองว่า ฉันเองคิดถึงเพื่อนมากมายเพียงใด" ก้อนเมฆก็ตอบว่า "อยู่บนนี้นานๆ ก็เหงาเหมือนกัน บางทีก็อยากกลับลงไปข้างล่างบ้าง" ท้องฟ้าเลยบอกว่า "ฉันก็เหงาเหมือนกัน แต่ว่าฉันกลับลงไปไม่ได้ แต่เจ้าลงไปได้นี่ ถ้าอย่างนั้นฉันจะส่งเจ้ากลับลงไป และความคิดถึงของฉันก็หนักมากพอที่จะส่งพวกเจ้าลงไปหมดทั้งท้องฟ้า" จากนั้นก้อนเมฆทั้งหมดก็รวมตัวกัน และรวมเข้ากับความคิดถึงอันมากมายของท้องฟ้า แล้วตกลงมาเป็นหยาดฝน
.... ส่งความรัก ความคิดถึงมายังแผ่นดิน และผืนน้ำ ....

ตั้งแต่นั้นมา จึงไม่แปลกใจเลยว่า เมื่อใดที่ฝนตก ....เราจึงรู้สึกเหงา.....และคิดถึงคนที่เรารัก และผูกพัน ...

Parapluie

Un parapluie est une sorte de toit portatif pliant permettant de se protéger de la pluie. Les parasols et les ombrelles sont construits sur le même principe, mais ne sont pas forcément étanches et ne protègent généralement que du soleil.

วันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2551

MonKiChi

ชื่อ Oyama no Monkichi ( หมายถึงภูเขาของลิงในภาษาญี่ปุ่น)
วันเกิด 13 มกราคม
สถานที่เกิด ญี่ปุ่น
บุคลิก
เจ้าลิงน้อยที่มีนิสัยสนุกสนานเฮฮา เขามักจะคุยอวดกับทุกๆคนเสมอว่าเขาเป็นเจ้าของแชมป์กินกล้วยได้เร็วที่สุดในโลก สถิติการกินของเขาก็คือสามารถกินกล้วยได้ 10 ใบภายในเวลาไม่ถึงนาที

Oyama no Monkichi's FRIEND

MOMO วันเกิด 3 มีนาคม สาวน้อยที่ใครๆก็ต้องหลงรัก

OO วันเกิด 1 กุมภาพันธ์ นิสัยสบายๆ ไม่มีปัญหา ยกเว้นกับวิชาเลขที่เขาเกลียดแสนเกลียด


Daikichi วันเกิด 5 พฤษภาคม ลิงหนุ่มน้อยที่คิดว่าตนเองเป็นลิงที่หน้าตาดีที่สุด

Monsuke วันเกิด 1 เมษายนนิสัยสบายๆ แม้บางครั้งจะป้ำๆเป๋อไปบ้างก็ตาม


Chieo วันเกิด 25 ธันวาคม มันสมองของกลุ่ม
Monta วันเกิด 26 พฤศจิกายน น้องชายของ Monkichi

วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2551

Vent

Le vent est un mouvement de l’atmosphère. Il peut apparaître sur n’importe quelle planète disposant d’une atmosphère. Ces mouvements de masses d’air sont provoqués par deux phénomènes se produisant simultanément : un réchauffement inégalement réparti de la surface de la planète par l’énergie solaire et la rotation de la planète.
Sur
Terre, plusieurs régions ont des vents caractéristiques auxquels les populations locales ont données des noms particuliers. Les vents sont une source d’énergie renouvelable, et ont été utilisés à travers les siècles à divers usages, par les moulins à vent, la navigation à la voile, le vol à voile ou plus simplement le séchage. La vitesse du vent est mesurée avec un anémomètre mais peut être estimée par une manche à air, un drapeau, etc.

วันพุธที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2551

*ความมืด..เพื่อนคนแรกของมนุษย์....แต่!!มนุษย์กลับไปหาแสงสว่าง


ความคิด.....ความเชื่อ.....สิ่งที่มนุษย์ทุกคนเชื่อมั่นมาตลอด......ใช่สิ่งที่ถูกต้องแน่เหรอ
คิดไปคิดมา.....มันเป็นแค่ความเชื่อของมนุษย์นี่......มันใช่ความถูกต้องแน่เหรอ
เหมือนกับการทะเลาะกันระหว่างเพื่อน.....ต่างฝ่ายต่างคิดว่าตัวเองถูก.....ทั้งๆที่ ต่างฝ่ายต่างคิดไปเองว่าตัวเองถูก
เคยคิดในทางกลับกันบ้างมั้ย.....ถ้าความเชื่อของมนุษย์.....เป็นความชั่วที่ถูก....ความดีเป็นสิ่งที่ผิด
หลายคนอาจจะค้านขึ้นมาด้วยเหตุผลต่างๆนาๆ ว่าถ้าความชั่วเป็นสิ่งที่ถูก แล้วทุกคนจะมีความสุขเหรอ....
นั่นก็ใช่......แต่ลองมองให้ลึกเข้าไปอีก.....พยายามทิ้งหลักความจริงที่ตัวเองและมนุษย์ทุกคนเชื่อมาตลอด
ความสุขที่แท้จริงของตนเป็นยังไง...... เราถูกสั่งสอนและป้อนข้อมูลมาตลอดว่า สิ่งนั้นมีความสุข สิ่งนั้นมันอบอุ่น
ลองคิดดูให้ลึกๆ.....ถ้าเราโดนสั่งสอน และป้อนข้อมูลว่า สิ่งที่ตัวเองทำแล้วไม่มีความสุขพอทำแล้วมีความสุขบ้างละ
มนุษย์ทุกคนอยู่บนหลักเหตุผลที่เรียกว่า "ข้อมูลที่ถูกสอนสั่งมาแต่เด็กๆ"
ตอนเด็กๆ รับรู้อะไร ฟังอะไร อ่านข้อมูลอะไร ก้จะกลายเป็นรากฐานให้กับตัวตนของตน
สีดำที่ผมเห็น จะเหมือนกับสีดำที่คุณเห็นรึเปล่า ก็ไม่มีใครทราบ
ความดีและความชั่วก็เหมือนกับกระดาษที่มี 2 ด้าน
ต่างกันสุดขั้ว....ไม่มีวันได้เจอกัน.....แต่ทั้ง 2 ฝ่ายอยู่แค่อีกฝั่งซึ่งกันและกัน
เพราะฉะนั้น......ความดีและความชั่วที่เราเชื่อกันมาทุกวันนี้.....เป็นแค่ความเชื่อเฉยๆ......
ความดีและความชั่วที่แท้จริงนั้น......คือหลักเหตุผลและความคิดของแต่ละคนตังหาก
ไม่มีใครถูกใครผิดหรอก....เราไม่เคยรู้ซึ้งถึงตัวตนที่แท้จริงของผู้อื่น......แล้วเราจะรู้จักความดีและความชั่วของเค้าได้อย่างไร
สีดำที่ผมเห็น จะเหมือนกับสีดำที่คุณเห็นรึเปล่า ก็ไม่มีใครทราบ.....
ความดีและความชั่วที่ผมเห็น จะเหมือนกับที่คุณเห็นรึเปล่า.....ก็ไม่มีใครทราบ......
มนุษย์เรานั้นอยู่กับความมืดก่อนที่จะได้พบกับแสงสว่าง.....เมื่อได้พบกับแสงสว่างจึงเข้าไปหามัน....เพราะมันสดใสกว่า สบายกว่า โล่งใจกว่า และเปิดเผยกว่า.....
ความมืดจึงต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว.....มีแต่คนหลับไหลไปไม่สนใจ......ทั้งๆที่เพราะตัวเองไม่มีคุณสมบัติอย่างที่มนุษย์ต้องการ ไม่สดใส....ไม่สบาย....ไม่โล่งใจ....และไม่เปิดเผย
สำหรับเราแล้ว.....แสงสว่างช่วยทำให้เราได้พบเพื่อน....พบกับสิ่งที่ตัวเองเชื่อว่ามีความสุขและอบอุ่น...
แต่ก็ไม่เคยมองข้ามความมืด..... ยามที่มีเรื่องต้องคิด....อยากอยู่เงียบๆ....ขอเวลาตัดสินใจอะไรบางอย่าง......
ความมืดคือสิ่งที่เราจะไปอยู่ด้วย......เพราะรู้สึกถึงความอบอุ่นในแบบของความมืด...ความสบายใจในแบบของความมืด.....และรู้สึกใจสงบอย่างบอกไม่ถูกเชื่อ....ความคิด..... ที่มนุษย์ ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น......
ทั้งความคิดที่ว่า ความดีนั้นถุกต้อง ความชั่วนั้นมันผิด......
มีใครเคยคิดบ้างมั้ยว่า.....
ความเชื่อนั้นมันผิดตลอดมา
ความคิด.....ความเชื่อ.....สิ่งที่มนุษย์ทุกคนเชื่อมั่นมาตลอด......ใช่สิ่งที่ถูกต้องแน่เหรอ
คิดไปคิดมา.....มันเป็นแค่ความเชื่อของมนุษย์นี่......มันใช่ความถูกต้องแน่เหรอ
เหมือนกับการทะเลาะกันระหว่างเพื่อน.....ต่างฝ่ายต่างคิดว่าตัวเองถูก.....ทั้งๆที่ ต่างฝ่ายต่างคิดไปเองว่าตัวเองถูก
เคยคิดในทางกลับกันบ้างมั้ย.....ถ้าความเชื่อของมนุษย์.....เป็นความชั่วที่ถูก....ความดีเป็นสิ่งที่ผิด
หลายคนอาจจะค้านขึ้นมาด้วยเหตุผลต่างๆนาๆ ว่าถ้าความชั่วเป็นสิ่งที่ถูก แล้วทุกคนจะมีความสุขเหรอ....
นั่นก็ใช่......แต่ลองมองให้ลึกเข้าไปอีก.....พยายามทิ้งหลักความจริงที่ตัวเองและมนุษย์ทุกคนเชื่อมาตลอด
ความสุขที่แท้จริงของตนเป็นยังไง...... เราถูกสั่งสอนและป้อนข้อมูลมาตลอดว่า สิ่งนั้นมีความสุข สิ่งนั้นมันอบอุ่น
ลองคิดดูให้ลึกๆ.....ถ้าเราโดนสั่งสอน และป้อนข้อมูลว่า สิ่งที่ตัวเองทำแล้วไม่มีความสุขพอทำแล้วมีความสุขบ้างละ
มนุษย์ทุกคนอยู่บนหลักเหตุผลที่เรียกว่า "ข้อมูลที่ถูกสอนสั่งมาแต่เด็กๆ"
ตอนเด็กๆ รับรู้อะไร ฟังอะไร อ่านข้อมูลอะไร ก้จะกลายเป็นรากฐานให้กับตัวตนของตน
สีดำที่เห็น จะเหมือนกับสีดำที่คุณเห็นรึเปล่า ก็ไม่มีใครทราบ
ความดีและความชั่วก็เหมือนกับกระดาษที่มี 2 ด้าน
ต่างกันสุดขั้ว....ไม่มีวันได้เจอกัน.....แต่ทั้ง 2 ฝ่ายอยู่แค่อีกฝั่งซึ่งกันและกัน
เพราะฉะนั้น......ความดีและความชั่วที่เราเชื่อกันมาทุกวันนี้.....เป็นแค่ความเชื่อเฉยๆ......
ความดีและความชั่วที่แท้จริงนั้น......คือหลักเหตุผลและความคิดของแต่ละคนตังหาก
ไม่มีใครถูกใครผิดหรอก....เราไม่เคยรู้ซึ้งถึงตัวตนที่แท้จริงของผู้อื่น......แล้วเราจะรู้จักความดีและความชั่วของเค้าได้อย่างไร
สีดำที่เห็น จะเหมือนกับสีดำที่คุณเห็นรึเปล่า ก็ไม่มีใครทราบ.....
ความดีและความชั่วที่เห็น จะเหมือนกับที่คุณเห็นรึเปล่า.....ก็ไม่มีใครทราบ......
มนุษย์เรานั้นอยู่กับความมืดก่อนที่จะได้พบกับแสงสว่าง.....เมื่อได้พบกับแสงสว่างจึงเข้าไปหามัน....เพราะมันสดใสกว่า สบายกว่า โล่งใจกว่า และเปิดเผยกว่า.....
ความมืดจึงต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว.....มีแต่คนหลับไหลไปไม่สนใจ......ทั้งๆที่เพราะตัวเองไม่มีคุณสมบัติอย่างที่มนุษย์ต้องการ ไม่สดใส....ไม่สบาย....ไม่โล่งใจ....และไม่เปิดเผย
สำหรับเราแล้ว.....แสงสว่างช่วยทำให้เราได้พบเพื่อน....พบกับสิ่งที่ตัวเองเชื่อว่ามีความสุขและอบอุ่น...
แต่ก็ไม่เคยมองข้ามความมืด..... ยามที่มีเรื่องต้องคิด....อยากอยู่เงียบๆ....ขอเวลาตัดสินใจอะไรบางอย่าง......
ความมืดคือสิ่งที่เราจะไปอยู่ด้วย......เพราะรู้สึกถึงความอบอุ่นในแบบของความมืด...ความสบายใจในแบบของความมืด.....และรู้สึกใจสงบอย่างบอกไม่ถูก

วันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2551

เพื่อน~~


คอยเตือน ยามเพื่อนพลั้ง คอยฟัง ยามเพื่อนขอ
คอยรอ ยามเพื่อนสาย คอยพาย ยามเพื่อนพัก
คอยทัก ยามเพื่อนทุกข์ คอยปลุก ยามเพื่อนท้อ
คอยง้อ ยามเพื่อนงอน คอยสอน ยามเพื่อนผิด
คอยสะกิด ยามเพื่อนเผลอ คอยเจอ ยามเพื่อนหา
คอยลา ยามเพื่อนกลับ คอยปรับ ยามเพื่อนเปลี่ยน
คอยเรียน ยามเพื่อนเที่ยว คอยเคี่ยว ยามเพื่อนเล่น
คอยเย็น ยามเพื่อนร้อน คอยหอน ยามเพื่อนเห่า
คอยเฝ้า ยามเพื่อนฟุบ คอยอุบ ยามเพื่อนปิด
คอยคิด ยามเพื่อนถาม คอยปราม ยามเพื่อนหลง
คอยปลง ยามเพื่อนแกล้ง คอยแบ่ง ยามเพื่อนหมด
คอยอด ยามเพื่อนทาน คอยคาน ยามเพื่อนล้ม
คอยชม ยามเพื่อนชนะ คอยสละ ยามเพื่อนชอบ

อย่า!ลืมให้ความสำคัญกับคนที่คุณเรียกว่า "เพื่อน" นะ
โดยเฉพาะถ้าเค้าคือเพื่อนจริงๆ


... เธอทุกข์ - ฉันทุกข์ เธอสุข – ฉันสุข.....

วันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2551

เรื่องของพรหมลิขิต?!

ด้ายแดง.....มีใครรอเราอยู่.....จริงเหรอ???

....ในหลายๆ ความเชื่อเกี่ยวกับความรัก และคู่ชีวิต ..

ความเชื่ออันนึงที่เชื่อว่า..

คู่ชีวิตที่แท้จริง จะมีด้ายสีแดงผูกที่นิ้วก้อยข้างซ้าย เชื่อมกันไว้

รอจนวันนึง..ด้ายสีแดงนี้จะนำให้เขาทั้งสองมาพบกัน
และรักกันในที่สุด..