วันพุธที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2551

*ความมืด..เพื่อนคนแรกของมนุษย์....แต่!!มนุษย์กลับไปหาแสงสว่าง


ความคิด.....ความเชื่อ.....สิ่งที่มนุษย์ทุกคนเชื่อมั่นมาตลอด......ใช่สิ่งที่ถูกต้องแน่เหรอ
คิดไปคิดมา.....มันเป็นแค่ความเชื่อของมนุษย์นี่......มันใช่ความถูกต้องแน่เหรอ
เหมือนกับการทะเลาะกันระหว่างเพื่อน.....ต่างฝ่ายต่างคิดว่าตัวเองถูก.....ทั้งๆที่ ต่างฝ่ายต่างคิดไปเองว่าตัวเองถูก
เคยคิดในทางกลับกันบ้างมั้ย.....ถ้าความเชื่อของมนุษย์.....เป็นความชั่วที่ถูก....ความดีเป็นสิ่งที่ผิด
หลายคนอาจจะค้านขึ้นมาด้วยเหตุผลต่างๆนาๆ ว่าถ้าความชั่วเป็นสิ่งที่ถูก แล้วทุกคนจะมีความสุขเหรอ....
นั่นก็ใช่......แต่ลองมองให้ลึกเข้าไปอีก.....พยายามทิ้งหลักความจริงที่ตัวเองและมนุษย์ทุกคนเชื่อมาตลอด
ความสุขที่แท้จริงของตนเป็นยังไง...... เราถูกสั่งสอนและป้อนข้อมูลมาตลอดว่า สิ่งนั้นมีความสุข สิ่งนั้นมันอบอุ่น
ลองคิดดูให้ลึกๆ.....ถ้าเราโดนสั่งสอน และป้อนข้อมูลว่า สิ่งที่ตัวเองทำแล้วไม่มีความสุขพอทำแล้วมีความสุขบ้างละ
มนุษย์ทุกคนอยู่บนหลักเหตุผลที่เรียกว่า "ข้อมูลที่ถูกสอนสั่งมาแต่เด็กๆ"
ตอนเด็กๆ รับรู้อะไร ฟังอะไร อ่านข้อมูลอะไร ก้จะกลายเป็นรากฐานให้กับตัวตนของตน
สีดำที่ผมเห็น จะเหมือนกับสีดำที่คุณเห็นรึเปล่า ก็ไม่มีใครทราบ
ความดีและความชั่วก็เหมือนกับกระดาษที่มี 2 ด้าน
ต่างกันสุดขั้ว....ไม่มีวันได้เจอกัน.....แต่ทั้ง 2 ฝ่ายอยู่แค่อีกฝั่งซึ่งกันและกัน
เพราะฉะนั้น......ความดีและความชั่วที่เราเชื่อกันมาทุกวันนี้.....เป็นแค่ความเชื่อเฉยๆ......
ความดีและความชั่วที่แท้จริงนั้น......คือหลักเหตุผลและความคิดของแต่ละคนตังหาก
ไม่มีใครถูกใครผิดหรอก....เราไม่เคยรู้ซึ้งถึงตัวตนที่แท้จริงของผู้อื่น......แล้วเราจะรู้จักความดีและความชั่วของเค้าได้อย่างไร
สีดำที่ผมเห็น จะเหมือนกับสีดำที่คุณเห็นรึเปล่า ก็ไม่มีใครทราบ.....
ความดีและความชั่วที่ผมเห็น จะเหมือนกับที่คุณเห็นรึเปล่า.....ก็ไม่มีใครทราบ......
มนุษย์เรานั้นอยู่กับความมืดก่อนที่จะได้พบกับแสงสว่าง.....เมื่อได้พบกับแสงสว่างจึงเข้าไปหามัน....เพราะมันสดใสกว่า สบายกว่า โล่งใจกว่า และเปิดเผยกว่า.....
ความมืดจึงต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว.....มีแต่คนหลับไหลไปไม่สนใจ......ทั้งๆที่เพราะตัวเองไม่มีคุณสมบัติอย่างที่มนุษย์ต้องการ ไม่สดใส....ไม่สบาย....ไม่โล่งใจ....และไม่เปิดเผย
สำหรับเราแล้ว.....แสงสว่างช่วยทำให้เราได้พบเพื่อน....พบกับสิ่งที่ตัวเองเชื่อว่ามีความสุขและอบอุ่น...
แต่ก็ไม่เคยมองข้ามความมืด..... ยามที่มีเรื่องต้องคิด....อยากอยู่เงียบๆ....ขอเวลาตัดสินใจอะไรบางอย่าง......
ความมืดคือสิ่งที่เราจะไปอยู่ด้วย......เพราะรู้สึกถึงความอบอุ่นในแบบของความมืด...ความสบายใจในแบบของความมืด.....และรู้สึกใจสงบอย่างบอกไม่ถูกเชื่อ....ความคิด..... ที่มนุษย์ ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น......
ทั้งความคิดที่ว่า ความดีนั้นถุกต้อง ความชั่วนั้นมันผิด......
มีใครเคยคิดบ้างมั้ยว่า.....
ความเชื่อนั้นมันผิดตลอดมา
ความคิด.....ความเชื่อ.....สิ่งที่มนุษย์ทุกคนเชื่อมั่นมาตลอด......ใช่สิ่งที่ถูกต้องแน่เหรอ
คิดไปคิดมา.....มันเป็นแค่ความเชื่อของมนุษย์นี่......มันใช่ความถูกต้องแน่เหรอ
เหมือนกับการทะเลาะกันระหว่างเพื่อน.....ต่างฝ่ายต่างคิดว่าตัวเองถูก.....ทั้งๆที่ ต่างฝ่ายต่างคิดไปเองว่าตัวเองถูก
เคยคิดในทางกลับกันบ้างมั้ย.....ถ้าความเชื่อของมนุษย์.....เป็นความชั่วที่ถูก....ความดีเป็นสิ่งที่ผิด
หลายคนอาจจะค้านขึ้นมาด้วยเหตุผลต่างๆนาๆ ว่าถ้าความชั่วเป็นสิ่งที่ถูก แล้วทุกคนจะมีความสุขเหรอ....
นั่นก็ใช่......แต่ลองมองให้ลึกเข้าไปอีก.....พยายามทิ้งหลักความจริงที่ตัวเองและมนุษย์ทุกคนเชื่อมาตลอด
ความสุขที่แท้จริงของตนเป็นยังไง...... เราถูกสั่งสอนและป้อนข้อมูลมาตลอดว่า สิ่งนั้นมีความสุข สิ่งนั้นมันอบอุ่น
ลองคิดดูให้ลึกๆ.....ถ้าเราโดนสั่งสอน และป้อนข้อมูลว่า สิ่งที่ตัวเองทำแล้วไม่มีความสุขพอทำแล้วมีความสุขบ้างละ
มนุษย์ทุกคนอยู่บนหลักเหตุผลที่เรียกว่า "ข้อมูลที่ถูกสอนสั่งมาแต่เด็กๆ"
ตอนเด็กๆ รับรู้อะไร ฟังอะไร อ่านข้อมูลอะไร ก้จะกลายเป็นรากฐานให้กับตัวตนของตน
สีดำที่เห็น จะเหมือนกับสีดำที่คุณเห็นรึเปล่า ก็ไม่มีใครทราบ
ความดีและความชั่วก็เหมือนกับกระดาษที่มี 2 ด้าน
ต่างกันสุดขั้ว....ไม่มีวันได้เจอกัน.....แต่ทั้ง 2 ฝ่ายอยู่แค่อีกฝั่งซึ่งกันและกัน
เพราะฉะนั้น......ความดีและความชั่วที่เราเชื่อกันมาทุกวันนี้.....เป็นแค่ความเชื่อเฉยๆ......
ความดีและความชั่วที่แท้จริงนั้น......คือหลักเหตุผลและความคิดของแต่ละคนตังหาก
ไม่มีใครถูกใครผิดหรอก....เราไม่เคยรู้ซึ้งถึงตัวตนที่แท้จริงของผู้อื่น......แล้วเราจะรู้จักความดีและความชั่วของเค้าได้อย่างไร
สีดำที่เห็น จะเหมือนกับสีดำที่คุณเห็นรึเปล่า ก็ไม่มีใครทราบ.....
ความดีและความชั่วที่เห็น จะเหมือนกับที่คุณเห็นรึเปล่า.....ก็ไม่มีใครทราบ......
มนุษย์เรานั้นอยู่กับความมืดก่อนที่จะได้พบกับแสงสว่าง.....เมื่อได้พบกับแสงสว่างจึงเข้าไปหามัน....เพราะมันสดใสกว่า สบายกว่า โล่งใจกว่า และเปิดเผยกว่า.....
ความมืดจึงต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว.....มีแต่คนหลับไหลไปไม่สนใจ......ทั้งๆที่เพราะตัวเองไม่มีคุณสมบัติอย่างที่มนุษย์ต้องการ ไม่สดใส....ไม่สบาย....ไม่โล่งใจ....และไม่เปิดเผย
สำหรับเราแล้ว.....แสงสว่างช่วยทำให้เราได้พบเพื่อน....พบกับสิ่งที่ตัวเองเชื่อว่ามีความสุขและอบอุ่น...
แต่ก็ไม่เคยมองข้ามความมืด..... ยามที่มีเรื่องต้องคิด....อยากอยู่เงียบๆ....ขอเวลาตัดสินใจอะไรบางอย่าง......
ความมืดคือสิ่งที่เราจะไปอยู่ด้วย......เพราะรู้สึกถึงความอบอุ่นในแบบของความมืด...ความสบายใจในแบบของความมืด.....และรู้สึกใจสงบอย่างบอกไม่ถูก

ไม่มีความคิดเห็น: